Ark Investment Management (Ark Invest) ได้เผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา โดยอธิบายเบื้องหลังการคาดการณ์ราคาบิตคอยน์ในรายงาน Big Ideas 2025 ที่เพิ่งอัปเดตใหม่

บทความนี้เจาะลึกถึงโมเดลการคำนวณและสมมติฐานต่างๆ ที่ใช้ในการกำหนด 3 กรณีเป้าหมาย ได้แก่ กรณีแย่ (bear case) ที่ราคา $300,000, กรณีฐาน (base case) ที่ $710,000 และกรณีดีมาก (bull case) สูงสุดถึง $1.5 ล้านต่อบิตคอยน์ ภายในปี 2030

เหรียญหมุนเวียนในปี 2030 และแหล่งทุนสะสมหลัก

Ark ระบุว่า เนื่องจากตารางการออกเหรียญที่จำกัดของบิตคอยน์ จำนวนเหรียญในระบบจะมีประมาณ 20.5 ล้านเหรียญ ภายในปี 2030 โดยแหล่งทุนสะสมหลักที่จะผลักดันราคาคือการลงทุนจากสถาบัน นักลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ทุนสำรองของประเทศ บริษัทที่บริหารเงินสด และบริการการเงินที่สร้างขึ้นบนบิตคอยน์เอง อย่างไรก็ตาม Ark ก็เตือนว่าหากตลาดเป้าหมายหรืออัตราการเข้าถึงไม่เป็นไปตามคาด การขึ้นไปถึงเป้าหมายราคานั้นอาจไม่เกิดขึ้น

บทบาทสำคัญของการลงทุนสถาบันและทองคำดิจิทัล

บทวิเคราะห์ของ Ark ชี้ว่าการลงทุนสถาบันเป็นตัวแปรสำคัญ โดยมีสัดส่วน 32.7% ในกรณีแย่, 34.3% ในกรณีฐาน และ 43.4% ในกรณีดีมาก ขณะเดียวกัน บทบาทของบิตคอยน์ในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” ก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยมีสัดส่วน 57.8%, 48.6% และ 35.5% ตามลำดับในแต่ละกรณี

ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และตัวอย่างจากบริษัทเอกชน

Ark ยังเน้นย้ำถึงปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนมีนาคมที่กำหนดให้บิตคอยน์เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ รวมถึงตัวอย่างจากบริษัท Strategy (MSTR) ที่นำบิตคอยน์เข้ามาเสริมในกลยุทธ์การเงินขององค์กร

ความสำคัญของเครือข่ายชั้นสองและการโทเค็นไนซ์

Ark ระบุเพิ่มเติมว่าการเติบโตของบริการการเงินพื้นฐานบนบิตคอยน์ เช่น เครือข่าย Lightning หรือสินทรัพย์โทเค็นอย่าง WBTC กำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นต่อการสะสมทุน และช่วยขยายการใช้งานจริงของบิตคอยน์ในโลกการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi)

การปรับจำนวนเหรียญหมุนเวียนตามพฤติกรรมการถือครอง

เพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการคำนวณ Ark ใช้ เมตริก “liveliness” ในการประเมินว่าประมาณ 60% ของเหรียญทั้งหมดจะยังคงหมุนเวียนใช้งานจริงภายในปี 2030

การเน้นย้ำถึงข้อจำกัดของการคาดการณ์

แม้จะมีการวางโมเดลอย่างละเอียด Ark ก็เตือนชัดเจนในตอนท้ายว่า “การคาดการณ์ทั้งหมดมีข้อจำกัดในตัว และไม่ควรนำมาใช้เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ 100%” เพื่อเน้นถึงความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่ในอนาคตของตลาดคริปโต

Reference : Bitcoin News