บริษัท Auradine สตาร์ตอัพสายเทคจากซิลิคอนวัลเลย์ ประกาศปิดรอบการระดมทุนรอบล่าสุดที่ 153 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีนักลงทุนแห่เข้าร่วมจนเกินเป้าหมาย (oversubscribed) โดยมี Stepstone Group เป็นผู้นำการลงทุน ร่วมด้วยชื่อใหญ่อย่าง Samsung Catalyst Fund, Qualcomm Ventures, Premji Invest และ Maverick Silicon

การระดมทุนรอบนี้ทำให้ยอดรวมทั้งหมดของ Auradine ทะลุ 300 ล้านดอลลาร์ เป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทระบุว่าเงินทุนจะถูกนำไปใช้พัฒนานวัตกรรมที่ยั่งยืนและขยายการผลิตโซลูชันสำหรับการขุดบิตคอยน์ และ ศูนย์ข้อมูล AI (AI Data Centers) ให้เติบโตในระดับอุตสาหกรรม

เปิดตัวหน่วยธุรกิจใหม่ “Auralinks AI” – ลุยเครือข่ายศูนย์ข้อมูล AI ยุคใหม่

Auradine ยังเปิดตัวหน่วยธุรกิจใหม่ในชื่อ Auralinks AI ซึ่งจะมุ่งพัฒนาโครงข่ายแบบ open-standard สำหรับศูนย์ข้อมูล AI รุ่นถัดไป โดยมีทีมงานระดับหัวกะทิจาก Cisco, Google และ Microsoft มาร่วมพัฒนา เป้าหมายหลักคือการแก้ปัญหาเรื่องแบนด์วิธและระบบทำความเย็นในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการต่อยอดจากประกาศแรกในช่วงธันวาคมปีที่แล้ว

เปิดตัว “Teraflux 3nm” – เครื่องขุดไฮดรอลิก 600TH/s วิศวกรรมจากสหรัฐฯ

ไฮไลต์เด็ดจากฝั่ง Auradine คือการเปิดตัวเครื่องขุดรุ่นใหม่ Teraflux 3nm ซึ่งรวมถึงรุ่น AH3880 ที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบไฮโดร (hydro-cooled) และผลิตในสหรัฐฯ โดยให้กำลังสูงสุดถึง 600TH/s ถือเป็นคู่แข่งที่จริงจังของเครื่องขุดจาก Bitmain และ Microbt

บริษัทยังเผยว่า ปัจจุบันมีศูนย์ข้อมูลบิตคอยน์กว่า 40 แห่ง ที่ใช้งานระบบระบายความร้อนของ Auradine แล้ว ซึ่งช่วยเพิ่มแต้มต่อในสนามแข่งขันระดับโลก

ขยายบทบาทในวงการชิป – ใช้จุดแข็งในสหรัฐฯ รับศึกการค้า

Auradine ก่อตั้งเมื่อปี 2022 แต่เติบโตเร็วแบบก้าวกระโดด ได้รับการยอมรับจาก Global Semiconductor Alliance และเป็นสมาชิกของกลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง Ultra Accelerator Link

ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Bitmain, Bitdeer, Microbt และ Canaan เริ่มหันมาหาฐานการผลิตในสหรัฐฯ เพื่อรับมือกับมาตรการภาษีของรัฐบาลทรัมป์ Auradine กลับได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ตั้งแต่ต้น เพราะมีฐานอยู่ใน ซิลิคอนวัลเลย์ พร้อมต่อยอดเทคโนโลยีได้แบบครบวงจร

Reference : Bitcoin News