ผู้ประกอบการเหมือง Bitcoin ในสหรัฐฯ เร่งนำเข้าเครื่อง ASIC แบบด่วนจี๋ หลังรัฐบาลทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีอุปกรณ์จากจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ต้นทุนเครื่องขุดพุ่งขึ้น 22–36%

โดยบางบริษัทถึงขั้นเช่าเหมาลำเครื่องบิน ส่งตรงจากจีนและเอเชีย ราคาสูงถึง $2–3.5 ล้านต่อเที่ยว เพื่อเลี่ยงภาษีใหม่ที่กำลังจะบังคับใช้

ภาษีรอบนี้จะเก็บตั้งแต่ 24% ไปจนถึงมากกว่า 100% สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศเป้าหมาย เช่น จีน มาเลเซีย ไทย ไต้หวัน และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักของบริษัทอย่าง Bitmain และ MicroBT แม้ทั้งสองบริษัทจะเริ่มผลิตในสหรัฐฯ แล้ว แต่ปริมาณการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ นำเข้าเครื่อง ASIC คิดเป็นมูลค่ากว่า $2.3 พันล้าน และในไตรมาสแรกของปี 2025 เพียงไตรมาสเดียวก็นำเข้าไปแล้ว $860 ล้าน

หากทำสัญญาซื้อขายก่อนวันที่ 5 เมษายน จะยังสามารถนำเข้าได้โดยไม่ถูกเก็บภาษี แต่ถ้าอยู่ในช่วง 5–9 เมษายน จะได้ลดหย่อน 10% อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศ “พักเก็บภาษีบางรายการเป็นเวลา 90 วัน” ทำให้สถานการณ์คลี่คลายชั่วคราว

แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากมาตรการภาษีชุดนี้มีผลจริง จะกระทบโดยตรงต่อการเติบโตของพลังขุดในสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งประมาณ 35–40% ของ Hashrate ทั่วโลก และอาจทำให้บริษัทเหมืองต่างๆ เลือกขยายธุรกิจไปยังแคนาดา, ยุโรปเหนือ, อเมริกาใต้ หรือแอฟริกาแทน

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่ผู้เล่นในสหรัฐฯ จะหันไปควบรวมกิจการ (M&A) เพื่อหลีกเลี่ยงการนำเข้าเครื่องราคาแพง

หลายฝ่ายมองว่าภาษีรอบนี้อาจส่งผลเทียบเท่ากับกรณี จีนแบนเหมืองในปี 2021 ที่เคยทำให้แฮชเรตทั่วโลกสะเทือน แต่ในขณะเดียวกัน การหยุดภาษีชั่วคราว 90 วันก็อาจเปิดทางให้เหมืองในสหรัฐฯ ตั้งหลักทันก่อนแรงกระแทกระลอกใหญ่จะมาอีกครั้ง

สรุป: สงครามภาษีของทรัมป์รอบนี้ ยังไม่จบ แต่อุตสาหกรรมเหมืองสหรัฐฯ กำลังเร่งมือหนีลูกแรกก่อนที่คลื่นต่อไปจะซัดเข้าเต็มๆ

Reference : Bitcoin News