Binance ได้เผยแพร่การศึกษาวิจัยเมื่อวันที่ 7 เมษายน วิเคราะห์ผลกระทบจากการขึ้นภาษีในสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดโลก โดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม

รัฐบาลของเขาได้ดำเนินมาตรการทางการค้าเชิงป้องกันที่ครอบคลุม ข้อเสนอล่าสุดในวันที่ 2 เมษายนที่เรียกว่า “Liberation Day” ถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ประเทศคู่ค้าหลักตอบโต้

มาตรการภาษีเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดความไม่เสถียรทางเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกับช่วงเวลาหลังจากการประกาศกฎหมาย Smoot-Hawley Tariff Act ในปี 1930 โดยภาษีการนำเข้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกือบ 19% จากเดิมที่ 2.5% ในปี 2024

ในรายงานของ Binance Research ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงและส่งผลให้มูลค่าคริปโตตกต่ำลง “ความรู้สึกของตลาดได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในเชิงระมัดระวัง โดยนักลงทุนตอบสนองต่อการประกาศภาษีในลักษณะของพฤติกรรม ‘risk-off’”

โดยระบุเพิ่มเติมว่า:

มูลค่าตลาดรวมของคริปโตลดลงประมาณ 25.9% จากจุดสูงสุดในเดือนมกราคม ทำให้สูญเสียมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความอ่อนไหวของคริปโตต่อความไม่เสถียรทางเศรษฐกิจมหภาค

การลดลงนี้ได้ส่งผลกระทบทั้งกับบิตคอยน์, อีเธอเรียม, และเหรียญอื่นๆ รวมถึงเหรียญเก็งกำไรอย่าง memecoins ที่ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง นักลงทุนได้ย้ายไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแบบดั้งเดิม เช่น ทองคำ ซึ่งพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Binance ได้อธิบายว่า:

เมื่อคริปโตมีลักษณะคล้ายสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น สงครามการค้าที่ยืดเยื้ออาจยังคงส่งผลกระทบต่อการไหลของทุนและลดความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะสั้น ดังนั้น ทุนที่อาจจะเข้ามายังคริปโตอาจจะอยู่ข้างสนามหรือนำไปยังสินทรัพย์ที่มองว่าเป็นที่หลบภัย เช่น ทองคำ

Binance เตือนว่า ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่อาจจะยังคงบดบังข้อเสนอค่าใช้จ่ายระยะยาวของคริปโต “ภาษีที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 1930 กำลังสะเทือนทั้งเศรษฐกิจมหภาคและตลาดคริปโต ในระยะสั้น คริปโตอาจยังคงมีความผันผวน โดยความรู้สึกของตลาดจะสวิงไปตามการพัฒนาในสงครามการค้าต่อไป”

อย่างไรก็ตาม รายงานยังได้ชี้ทางการฟื้นตัวที่อาจเกิดขึ้นหากเงื่อนไขพื้นฐานดีขึ้น: “หากเงื่อนไขทางเศรษฐกิจมหภาคมีความเสถียรขึ้น, เรื่องราวใหม่ๆ เกิดขึ้น, หรือคริปโตกลับมามีบทบาทในฐานะเกราะป้องกันระยะยาว — การเติบโตใหม่อาจตามมา แต่จนกว่าจะถึงเวลานั้น ตลาดน่าจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบและตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจมหภาค”

Reference : Bitcoin News